"บทเรียนจากน้ำท่วมระลอกแรกของปี 2563"
"บทเรียนจากน้ำท่วมระลอกแรกของปี"
๑.ปีนี้น้ำท่วมเกิดจากหย่อมความกดอากาศต่ำ ที่มีปริมาณฝนจำนวนมากตกอย่างต่อเนื่อง ระดับ 200-300 มม. ปริมาณน้ำที่มากผิดปกติไม่ได้อยู่ในประสบการณ์การรับรู้ พื้นที่ต่ำหลายแห่งวนซ้ำหลายรอบ
๒.เขตเมืองจะมีน้ำท่วมขังจากระบบระบายน้ำที่รองรับไม่ไหว ขยะอุดตัน ท่อขี่กันไปมา หลายมาตรฐาน พื้นที่ต่ำหรือโซนต้นน้ำในจุดที่ฝนตกจะท่วมก่อนคนอื่น
๓.ข่าวสารมาหลายทาง ทั้งการเตือนจากศูนย์อุตุฯ(แต่ละแห่งหนักเบา ไม่เท่ากัน) ยังไม่ได้รับความสนใจ การมีแอพฯจากเอกชน และอื่นๆ ส่วนใหญ่ไม่ได้ย่อยให้เข้าถึงได้ง่าย ไม่อธิบายเชื่อมโยง มีแต่ภาพ ส่งต่อกัน สะท้อนว่าการรับรู้ของเรายังผ่านการมองเห็นหลักฐานเชิงประจักษ์มากกว่าการสังเคราะห์ และขาดการอธิบายพื้นฐาน ทำให้มี data มากก็จริงแต่ไม่มีพลังในการทำงาน
๔.ปัญหาใหญ่ของระบบ ที่ขาดการเชื่อมโยงกัน จากน้ำบนฟ้าลงสู่ต้นน้ำ ลำคลอง ไหลสู่เมือง ชุมชน บ้านเรือน ปริมาณน้ำกับพื้นที่รับน้ำและระดับความเร็ว การเคลื่อนตัว รวมไปถึงระดับความสูงของน้ำเมื่อท่วมขังในเชิงพื้นที่ ยังเป็นปัญหาหลักคือไม่สามารถระบุได้ชัดเจน รวดเร็ว จังหวัดใหญ่ๆทั้งมีและไม่มีหน่วยงานกลางที่จะประเมินสถานการณ์และสื่อสารล่วงหน้าอย่างมีพลัง ข้อมูลดังกล่าวไม่สามารถถ่ายทอดไปสู่สังคม รับรู้จำกัดในแวดวงเฉพาะ สะท้อนช่องว่างข้อมูล ข่าวสาร กลไกแต่ละระดับกระจุกตัว ไม่มีส่วนร่วม ไม่เกิดการสื่อสารสาธารณะที่ครอบคลุม กระจายไปยังผู้ที่เกี่ยวข้องตามสภาพสังคมที่แตกกระจายเป็นเสี้ยวส่วน
๕.ที่สำคัญที่สุด แนวคิดการแก้ปัญหา ไม่สมบูรณ์ หน่วยงานต่างๆเชื่อถือการใช้โครงสร้างแข็งเชิงวิศวกรรมในการแก้ปัญหาเป็นหลัก(วิศวะครองเมือง) มีคลองระบายน้ำบ้าง ผันน้ำบ้าง โดยลืมไปว่าปริมาณน้ำฝนแต่ละครั้งที่ตกลงมาไม่สามารถระบุความแน่นอนได้ หากมีฝนมากกว่าพื้นที่รับน้ำ การระบายน้ำต่อให้มีโครงสร้างรองรับแค่ไหนน้ำก็ท่วมอยู่ดี ขณะที่มีการพัฒนา ถมที่ จุดรับน้ำน้อยลงไปทุกทีอีกด้วย ผังเมืองไม่ได้มีไว้แก้ปัญหาน้ำท่วม คิดแค่มิติการพัฒนา ชุมชนก็มีทั้งแบบรอหน่วยงานมาช่วย และคิดแบบจัดการตนเองเมื่อเจอน้ำใหญ่ระดับภูมินิเวศ เกินศักยภาพจะรับมือได้ และระบบเตือนภัยล่วงหน้าที่มีจะใช้เทคโนโลยีช่วยลำพังอย่างเดียวก็ไม่ได้ ยังจะต้องสร้างการเรียนรู้ให้กับประชาชนไปด้วย(ความรู้ด้านอุตุนิยมวิทยา เส้นทางน้ำ ผังน้ำ ระบบเมือง/โครงสร้างพื้นฐาน หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ฯลฯ) ความรู้ ความเข้าใจต่อปัญหาจะช่วยลดความสูญเสียได้ บวกกับระบบทีมระดับจังหวัดที่ประกอบส่วนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาประเมินสถานการณ์ร่วมกันแล้วสื่อสารอย่างมีเอกภาพ มีช่องทางสื่อสารที่หลากหลาย กระจายไปให้ครอบคลุม
ยังต้องทำกันต่อไป
คณะทำงานมูลนิธิ SCCCRN บันทึก
ขอบคุณภาพจากสมาชิก Facebook
Relate topics
- บริษัท เอสไอเอส ดิสทริบิวขั่น และ บริษัท ทรู คอร์เปเรชั่น มอบอุปกรณ์ให้มูลนิธิ SCCCRN
- เมืองที่มีทุกคนเป็นเจ้าของ
- "รับมือน้ำท่วมฉับพลัน"
- "SCCCRN เฝ้าระวังอุทกภัย" ไปต่อ
- คนหาดใหญ่ควรรู้
- คนหาดใหญ่ควรรู้
- SCCCRN เฝ้าระวังอุทกภัย ไปต่อ
- เบื้องหน้าเบื้องหลังของเว็บไซต์ www.Hatyaicityclimate.org
- "www.hatyaicityclimate.org"
- "งานSCCCRN กับการพัฒนาเมืองหาดใหญ่"